08 มกราคม 2550

กุ้งเชอร์รี่ กับ ตู้ไม้น้ำ

ตู้ไม้น้ำ ไม่เหมือนตู้เลี้ยงปลานะครับ คนละเรื่องกันเลย
ตู้ไม้น้ำ จัดแล้วจัดเลย รื้อไม่ได้ ล้างตู้ไม่ได้นะครับ
ทำได้แค่ขูดตะไคร่ กับเติมน้ำ หรือเปลี่ยนน้ำนิดหน่อยห้ามเกิน 10%
ถ้ารื้อตู้หรือล้างตู้ ก็ต้องเริ่มใหม่หมด กุ้ง/ปลา/ต้นไม้ก็จะตายครับ

ตู้ไม่ควรให้โดนแดด เพราะตะไคร่จะขึ้น เพราะเราควบคุมแสงแดดไม่ได้
ให้ใช้หลอดตะเกียบประหยัดไฟหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์แทน
ตู้ 18" ใช้ซัก 12 วัตต์ก็พอ ค่าไฟน่าจะตกเดือนละไม่ถึง 20 บาท
ถ้ากลัวแสงจะเยอะเกินไป ให้ใช้เครื่องตั้งเวลามาช่วยเปิดปิดไฟ
แรกๆก็ต้องลองผิดลองถูกก่อนซักอาทิตย์นึง ว่าควรเปิดปิดกี่โมงดี
ถ้า 1 อาทิตย์แล้วตะไคร่เพียบ แปลว่าแสงเยอะไป
ถ้าไม่มีตะไคร่เลย ก็เพิ่มเวลาแสงอีกก็ได้ ต้นไม้จะได้โตเร็วๆ
พอทุกอย่างเข้าที่ ตะไคร่ก็จะนานๆมาที ขูดตะไคร่แค่ 1-2 เดือนครั้ง
แต่ถ้าไฟแรงไป ตะไคร่บุก ตู้ล่มแน่ๆครับ ถ้าไฟน้อยไป ต้นไม้จะไม่โต หรืออาจจะตาย
ใช้อาหารปลาขนาด micro pellet สำหรับปลาหางนกยูง วันละครั้ง กะให้ได้กินตัวละเม็ดก็พอ
บางทีก็แบ่งให้กินผักกาดขาวต้ม บางคนก็ให้ฟักทอง แตงโม แตงกวา
ยิ่งถ้ามีมอสชวา เป็นแหล่งเพาะตะไคร่ กุ้งจะชอบมากๆเลยครับ
หรือถ้ากลัวมันหิว ก็ใช้เครื่องตั้งเวลาให้อาหารปลาก็ได้ 300 กว่าบาทครับ

เรื่องออกลูก ไม่ต้องห่วงครับ ถ้าต้นไม้รกๆ ไม่เกิน 2 เดือน ลูกกุ้งยั้วเยี้ยแน่ๆ
ถ้าอยากเลี้ยงปลาด้วย ก็เลี้ยงได้แค่ซิวหนู มันจะช่วยกินแมลงน้ำตัวเล็กๆ
แต่มันไม่กินลูกกุ้งครับ เพราะปากมันเล็กกว่าลูกกุ้งซะอีก
แต่ถ้าเลี้ยงปลาด้วย ก็ต้องให้อาหารปลาสม่ำเสมอนะครับ ทิ้งๆขว้างๆแบบกุ้งไม่ได้
หรือจะเลี้ยงปลาคาร์ดินัลด้วยก็ได้ครับ (เป็นปลาฝูงอยู่กัน 2 ตัวขึ้นไป) ก็จะทำให้ตู้สวยขึ้นมาก

แนะนำให้ดูตัวอย่างการจัดตู้ที่เว็บนี้ครับ สวยๆทั้งนั้นเลย
http://clubaquaplant.org/forum/index.php?board=5.0
ยิ่งตู้ใหญ่ จะยิ่งสวย อุณหภูมิน้ำจะไม่แกว่งมากจนกุ้งป่วย


สรุปของที่ต้องซื้อที่ super market นะครับ
- หลอดตะเกียบประหยัดไฟของแท้ (ตู้ 14"=8W, 16"=12W) 120 บาท
(ห้ามใช้ Panasonic เจ๊งง่าย) (ซื้อที่บิ๊กซี/อมร/โลตัส)
- โคมไฟอ่านหนังสือ หรือ ขาหนีบหลอดไฟ 50-100 บาท (ซื้อที่บิ๊กซี/อมร/โลตัส)
- เครื่องตั้งเวลาเปิด-ปิดไฟ แบบดิจิตอล 200 บาท (ซื้อที่บิ๊กซี/อมร/โลตัส)


สรุปของที่ต้องซื้อที่ JJ ครับ
- ตู้ปลา (ควรจะ 18" ขึ้นไป 150-200 บาท)
- ปุ๋ยต้นไม้น้ำ ขวดเขียวเล็ก 20 บาท
- อาหารปลา 30 บาท
- ลิ้นทะเล 15 บาท (ซื้อตามร้านขายอาหารสัตว์หรือนก)
http://clubaquaplant.org/forum/index.php?topic=5268.0
เอามาตัดเป็นชิ้นใส่ลงไปนิดหน่อย เพราะกุ้งต้องการแคลเซียมในการลอกคราบ
ถ้าแคลเซียมไม่พอ มันก็จะลอกคราบไม่ผ่าน แล้วก็ตายครับ
- เครื่องกรองแขวนตัวเล็กสุด 100-200 บาท
- หญ้ามอสชวา ประมาณ 50-100 บาท (น้องกุ้งชอบมากๆ)
- ต้นไม้น้ำ กระถางละ 30 บาท
(ถ้าแสงดีๆ แนะนำกลอสโซ เลื้อยเร็วมากครับ คลุมดินหมดเลย
สาหร่ายถ้ามีก็ดีครับ อย่างน้อยถ้าต้นไม้อื่นตายหมด ก็ยังเหลือสาหร่าย เหอๆ)
- กรวดสีธรรมชาติขนาดเส้นผ่าศก. 0.5 มม. 2 กก. (กก.ละ 10 บาท)
- ดินภูเขาไฟ 1 กก. 100 บาท (ใช้จริงไม่ถึงโลหรอกครับ)
ปูดินชั้นล่างสุดก่อน แล้วเอากรวดโรยทับกันดินฟุ้งครับ
- เทอร์โมมิเตอร์ 100 บาท

- กุ้งเชอรี่ 3-4 ตัว ตัวละ 10 บาท
(ให้ซื้อเพิ่มทุกๆ 6 เดือนนะครับ เพราะถ้ามันผสมพันธุ์กันเองนานๆเข้า
สายเลือดมันจะชิดกัน สีจะซีด กุ้งจะไม่แข็งแรง ตายง่าย)
- ปลาซิวหนู 1-2 ตัว คอยกินหอย,หมัดน้ำ,หนอน ที่ติดมากับต้นไม้


ถ้าปลูกต้นกลอสโซ หรือต้นไม้อื่นที่เรื่องมาก
มีวิธีทำให้มันโตเร็วครับ ด้วยการให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
วิธีสร้างก๊าซ CO2 ที่ง่ายที่สุด คือสร้างจากยีสต์ทำขนมปัง
ต้องซื้อของตามนี้ครับ
- ยีสต์ทำขนมปัง ขวดเล็กสุด 15 บาท (ซื้อที่บิ๊กซี)
- เบกกิ้งโซดา (หรือผงฟู) กระปุกเล็กสุด 20 บาท (ซื้อที่บิ๊กซี)
- น้ำตาลทรายขาว ถุงเล็ก 10 บาท
- ขวดโค้กเปล่า 1.25 ลิตร
- สายออกซิเจน+หัวทราย+ท่อต่อรูปตัว Y สำหรับปรับความแรงก๊าซ
เจาะรูฝาโค้ก เอาท่อต่อรูปตัว Y เสียบลงไป อัดกาวร้อนให้แน่น
เอาท่อออกซิเจนมาเสียบท่อต่อตัว Y ปรับความแรงก่อน
แล้วเอาไปเสียบหัวทรายสำหรับหย่อนลงตู้


สูตรการทำคาร์บอนยีสต์
(ส่วนผสมนี้สำหรับขวดน้ำอัดลม 2 ลิตร)
1. ล้างขวดน้ำอัดลมให้สะอาด (ห้ามใช้ขวดน้ำดื่ม เพราะไม่ทนแรงอัดของก๊าซ)
2. ใส่น้ำตาลทรายแดง ให้สูงจากก้นขวด 2.5 นิ้ว
3. ดูดเอาน้ำจากตู้ปลามาใส่ในขวด (ยีสต์ชอบไนเตรตจากน้ำในตู้ปลา)
ให้ระดับน้ำต่ำกว่าปากขวด 4 นิ้ว
4. เติมยีสต์ 0.5 ช้อนชา
5. เติมเบกกิ้งโซดา (โซเดียม ไบคาร์บอเนต) 3 ช้อนชา
เพื่อปรับความเป็นกรดให้เหมาะกับยีสต์
- อาจใส่นมถั่วเหลืองเล็กน้อย ช่วยให้ยีสต์แข็งแรง แต่ห้ามใส่เยอะ
ไม่ควรเกิน 10 หยด เพราะยีสต์จะออกแรงมาก และหมดเร็วเกินไป
6. เอาฝ่ามืออุดปากขวด เขย่าขวด
7. เปิดฝาขวดทิ้งไว้ 10 นาที
8. ปิดฝาขวด ต่อท่อปรับความแรง ต่อหัวทรายหย่อนลงตู้
ฟองจะออกภายใน 1-2 ชั่วโมง ปรับความแรงให้ฟองพุ่งออกไม่เกิน 2-3 สาย (เดี๋ยวกุ้งจะสำลัก CO2)
อยู่ได้ประมาณ 3-4 อาทิตย์

อ้างอิงจาก
http://clubaquaplant.org/forum/index.php?topic=11361.0
http://clubaquaplant.org/forum/index.php?topic=11176.0

บางคนเปลี่ยนจากน้ำตาลกับนม เป็นผงทำวุ้น/เยลลี่ ก็จะอยู่ได้นานมากๆๆๆ
เพราะยีสต์จะกินน้ำตาลได้ช้า เพราะมันเป็นเยลลี่น่ะครับ

แต่ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่อยากให้ใช้คาร์บอนยีสต์ครับ
เพราะถ้าดูแลไม่ดี ยีสต์รั่วลงตู้ แทนที่จะมาแต่ CO2 ตู้พังหมดแน่ๆครับ
เอาไว้ถ้าแสงพอ ปุ๋ยถึง แต่ต้นไม้ไม่ค่อยโต ค่อยใช้คาร์บอนยีสต์ละกันครับ

ต้นกลอสโซสติกม่า
http://fishmini.blogspot.com/2010/10/blog-post_12.html



















ดูรูปทั้งหมดที่ http://picasaweb.google.com/SuperToyNC/AquaTank